แสนสิริที่จดทะเบียนในกรุงเทพฯ เป็นหน่วยการตลาดที่มีขนาดเล็กเพียง 231 ตารางฟุต เริ่มต้นที่ 500,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (64,394) ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผู้ซื้อจากฮ่องกง

นักพัฒนาไทยกำลังใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่หลากหลายเพื่อจำหน่ายบ้านที่ยังไม่ขายจำนวน 65,000 ยูนิตในกรุงเทพฯ

โดยทางแสนสิริ มีหุ้นจำนวนมากของแฟลตที่ขายไม่ออก ในกรุงเทพฯ ผู้ซื้อจำนวนมากพยายามล่อผู้ซื้อจากต่างประเทศด้วยส่วนลดและการต่อรองราคาจำนวนมากเพื่อลดจำนวนสินค้าคงคลังและช่วยให้ภาคส่วนที่ต้องดิ้นรนกลับคืนมา

แสนสิริที่จดทะเบียนในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามนักพัฒนาชั้นนำในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีหน่วยการตลาดที่มีขนาดเล็กเพียง 231 ตารางฟุต (21.5 ตารางเมตร) เริ่มต้นที่ 500,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (64,394 ดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับผู้ซื้อจากฮ่องกง ซึ่งเป็นขนาดที่พวกเขาคุ้นเคย ด้วยราคาเพียงเศษเสี้ยวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่แพงที่สุดในโลก

ทางทีมงานแสนสิริกล่าวว่ากำลังตั้งเป้าหมายผู้ซื้อชาวไทยและนักลงทุนต่างชาติเป็นครั้งแรกที่กำลังมองหาแฟลตราคาไม่แพงในเมืองหลวงด้วยการพัฒนา Muve Ram22 เป็นผลงานล่าสุดของแสนสิริในซีรี่ส์ Muve ในรามคำแหง บริเวณรอบนอกของย่านธุรกิจใจกลางเมือง

โครงการนี้ถูกเรียกเก็บเงินว่าราคาถูกที่สุดในกรุงเทพฯ เทียบเท่ากับ 2,100 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อตารางฟุต ซึ่งคิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของต้นทุนทั่วไปในเมืองหลวงของไทย และน้อยกว่าหนึ่งในสิบของแฟลตเทียบเท่าในฮ่องกง แฟลตในเดอะ พาวิเลีย ฟาร์ม ของฮ่องกง

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แสนสิริได้เปิดตัวแฟลตมากกว่า 230,000 แห่งในกรุงเทพฯ รวมถึงกว่า 60,000 ยูนิตในปี 2561 ตามรายงานของ Colliers ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงสองปีที่ผ่านมา การเปิดตัวได้ชะลอตัวลงเหลือ 20,000 หน่วยต่อปี เนื่องจากนักพัฒนาพยายามลดระดับสินค้าคงคลังที่สูง

ท่ามกลางข้อจำกัดด้านอุปทานส่วนเกินและการเดินทางอันเนื่องมาจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 นักพัฒนาจำนวนมากได้ใช้โปรโมชั่นและส่วนลดอย่างต่อเนื่องเพื่อขายแฟลตและเพิ่มกระแสเงินสด โปรโมชั่นปัจจุบันสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ประกอบด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 50% บัตรกำนัลสำหรับการเข้าพักโรงแรมหรู ค่าธรรมเนียมอ้างอิง ย้ายเข้าอยู่ตอนนี้ จ่ายทีหลัง และแฟลตพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตามรายงานของซาวิลส์ ประเทศไทย

Golden Emperor Properties ซึ่งตั้งอยู่ในฮ่องกงกำลังทำการตลาด 55 ยูนิตจากทั้งหมด 254 ยูนิตแบบหนึ่งห้องนอนใน Muve Ram 22 ให้กับชาวฮ่องกง โครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 ผู้ซื้อจะต้องชำระเงินดาวน์เพียงร้อยละ 15 และอีกร้อยละ 15 ครบกำหนดชำระภายในหกเดือนหลังจากจองและส่วนที่เหลือเมื่อแล้วเสร็จ

“ฮ่องกงเป็นตลาดหลักของเรา และเราประสบความสำเร็จในการขายมากกว่า 35 โครงการและมากกว่า 1,000 ยูนิต [ให้กับชาวฮ่องกง]” ไปรยา บุนนาค รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศของแสนสิริกล่าว

ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ผู้ซื้อจากต่างประเทศคิดเป็นร้อยละ 9 ของยอดขายแฟลตทั้งหมดในประเทศไทย โดย ผู้ซื้อชาวจีนซึ่งรวมถึงชาวฮ่องกงด้วย ซึ่งคิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของยอดขาย ตามข้อมูลของ Colliers

“มี [จำนวนมาก] ของ [แฟลต] ในบางพื้นที่ แต่ปีที่แล้ว [เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19] เราไม่ได้เปิดตัวโครงการหรือการพัฒนาใหม่ใด ๆ เลย” ไปรยากล่าว “และตอนนี้เราเห็นช่องว่างระหว่างผลิตภัณฑ์ที่เรามีกับความต้องการ เรามั่นใจว่าเราจะขายโครงการนี้ได้หมด” เธอกล่าวเสริม

โครงการ Muve ชุดแรก - 248 ยูนิต - ขายหมดภายในสองสัปดาห์หลังจากเปิดตัว ตามที่ Kingston Lai ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Golden Emperor ซึ่งเป็นหน่วยงานการตลาดด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในเชิงหว่าน

นักพัฒนาอย่างแสนสิริประสบความสำเร็จในการลดระดับสินค้าคงคลัง นักวิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์จึงมองโลกในแง่ดีอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มของภาคส่วนนี้ พวกเขายังเตือนด้วยว่านักพัฒนาไม่ควรพึ่งพาผู้ซื้อจากต่างประเทศมากเกินไป เนื่องจากการเดินทางตามปกติยังคงห่างไกลออกไป

“ด้วยสินค้าคงคลังที่ขายไม่ออกค่อยๆ ลดลง ตลาดน่าจะกลับมาสู่ภาวะปกติในอนาคตอันใกล้” ภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Colliers Thailand กล่าว “อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความต้องการที่จำกัด นักพัฒนาจะยังไม่สามารถปรับราคาขายของพวกเขาได้”

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก: scmp.com